Sitara Let Girls Dream ความฝันของเด็กสาวที่ไม่มีวันได้โบยบิน
Sitara Let Girls Dream ความฝันของเด็กสาวที่ไม่มีวันได้โบยบิน
สิทธิสตรีเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั่วโลกพยายามต่อสู้เรียกร้องมาหลายทศวรรษ แต่ทุกวันนี้ยังคงมีผู้หญิงที่ต้องเจ็บปวดจากการถูกสังคมกดขี่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “Sitara Let Girls Dream” หรือในชื่อภาษาไทย “ขอให้สาวน้อยได้ฝันถึงดวงดาว” ถือเป็นอนิเมชั่นจาก Netflix อีกเรื่องหนึ่ง ที่สร้างขึ้นเพื่อเรียกร้องสิทธิสตรีของผู้หญิงที่ถูกครอบครัวจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักและต้องสูญเสียความฝันของพวกเธอไปตลอดกาล
– เรื่องย่อ Sitara Let Girls Dream
Sitara Let Girls Dream ว่าด้วยเรื่องราวของ “ปารี” เด็กสาววัย 14 ปี ชาวปากีสถาน เธออาศัยอยู่กับพ่อแม่ พี่ชายและน้องสาว ปารีมีความใฝ่ฝันว่าสักวันนึงเธอจะได้เป็นนักบิน หารู้ไม่ว่า ทันทีที่พ่อกลับมาบ้าน เขาได้วางแผนจัดงานแต่งให้เธอกับชายที่มีอายุแก่กว่ามาก เพื่อความมั่นคงในชีวิตของเธอและครอบครัว แม้ทุกคนในบ้านจะไม่ยินดี แต่ด้วยสังคมอินเดียที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ทำให้ปารี แม่ รวมถึงคนอื่นๆในครอบครัวไม่สามารถปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้ได้ ถึงอย่างนั้น ปารีก็ยังคงเฝ้าฝันถึงการเป็นนักบิน จวบจนวินาทีสุดท้าย
ก่อนต้องเข้าสู่พิธีวิวาห์กับเจ้าบ่าวที่เธอไม่ต้องการ Sitara Let Girls Dream เป็นอนิเมชั่นใบ้ที่มีความยาวถึง 15 นาที แต่เนื้อหาจริงๆดันอยู่ที่ 2-3 นาทีสุดท้ายเท่านั้น และหากพูดกันตามตรงแล้ว ตลอดทั้งเรื่องเล่าแค่ 5-10 นาทีก็เพียงพอแล้วด้วยซ้ำ ผนวกกับการเป็นแอนิเมชั่นใบ้ ไม่มีบทพูด มีเพียงแค่ท่าทางต่างๆของตัวละครที่ดูเอื่อยเฉื่อย ฟุ้งเฟ้อ ผนวกกับการดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีจุดพลิกผันดึงอารมณ์ใดๆ จึงทำให้เรื่องนี้น่าเบื่อ มีข้อดี คือ สอดแทรกวัฒนธรรมต่างๆของประเทศอินเดียเข้ามา เช่น การรับประทานอาหารบนพื้น การเขียนมือให้เจ้าสาวก่อนแต่งงาน หรือจะเป็นบรรยากาศต่างๆที่หาไม่ได้จากอนิเมชั่นเรื่องอื่น แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ไม่ได้ดึงเอาความเป็นเฟมินิสต์ออกมาเท่าไหร่
หากไม่ได้ข้อความเฉลยท้ายเรื่องที่กล่าวว่า ทุกที่ทั่วโลกความฝันของเด็กที่ถูกบังคับให้แต่งงานปีละ 12,000,000 คน ไม่มีวันได้โบยบิน เหมือนเครื่องบินกระดาษที่ตัวละครเล่นกันในเรื่องก็ยากที่จะคิดว่า เรื่องนี้พยายามจะสื่ออะไรกันแน่ อีกทั้งโมเดลสีสันในเรื่องยังดูน่ารักสดใส จึงทำให้ผู้ชมไม่ได้รู้สึกอิน จริงจัง ไปกับความเศร้าเสียใจของตัวละครเลย จุดที่น่าหงุดหงิดอีกอย่าง คือ End Credit ยังดูมีความหมายและสนุกกว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดที่เล่ามาเสียอีก
โดยรวมแล้ว Sitara Let Girls Dream ให้อารมณ์เหมือนการ์ตูนดิสนีย์ใสๆที่จบแบบ Bad End แต่ไม่ได้มีอะไรชวนให้คิดต่อซักเท่าไหร่ หากตัดเรื่องการใส่ฉากฟุ่มเฟือยเปลืองแอร์ไทม์ต่างๆออกไป เล่าให้กระชับ ปรับโทนให้ดูจริงจังเกี่ยวกับการสู้เพื่อสิทธิสตรีและใส่เนื้อเรื่องที่ดูมีอะไรมากกว่านี้หน่อย จะถือเป็นอนิเมชั่นน้ำดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
เครดิตภาพ matichon.co.th, doonetflix.com
#การ์ตูนญี่ปุ่น #การ์ตูนออกใหม่ #การ์ตูนดิสนีย์ #อนิเมะไทย #Netflix #SitaraLetGirlsDream
