การสานต่อเรื่องราวในรูปแบบเดอะมูฟวี่ของดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์

               คิเมะสึ โนะ ไยบะหรือดาบพิฆาตอสูร เป็นอนิเมะเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมในปี 2020 จนมีกระแสไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ด้วยธีมเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย แต่น่าติดตามในทุกตอน ยิ่งได้สตูดิโอคุณภาพอย่าง Ufotable เจ้าของผลงานโด่งดังกับอนิเมะซีรีส์ Fate ซึ่งในปี 2021 ก็ได้ออกผลงานเป็น The Movie ในชื่อดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีไม่แพ้กันและสำหรับใครที่สนใจ ตอนนี้มีให้ดูฟรีแบบถูกลิขสิทธิ์ใน Bilibili

– เรื่องราวที่สานต่อจากอนิเมะดาบพิฆาตอสูร

               หลังจากที่ “คามาโดะ ทันจิโร่” ได้รับการยอมรับจากกลุ่มนักล่าอสูร เขาก็ได้รับภารกิจให้ไปที่รถไฟขบวนหนึ่งที่มีคดีคนหายไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับเพื่อนของทันจิโร่ทั้งสองคนอย่าง “อางาซึมะ เซ็นอิตชึ”  หนุ่มหัวทอง ผู้ใช้ปราณอัสนีและ “ฮาชิบิระ อิโนะสุเกะ” ผู้ใช้ปราณสัตว์ป่า ที่มาพร้อมกับหน้ากากหัวหมูป่าอันเป็นเอกลักษณ์ สานต่อตอนจบของอนิเมะภาคแรก ซึ่งดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ ศึกรถไฟสู่นิรันดร์จะดำเนินเรื่องราวต่อจากตอนจบโดยทันที

สำหรับภารกิจของพวกทันจิโร่คครั้งนี้ จะไม่ได้มีแค่พวกเขาสามคน แต่ยังมีหนึ่งในเสาหลัก “เรนโกคุ เคียวจูโร่” เสาหลักแห่งไฟ และศัตรูหลักในครั้งนี้คือ “เอนมุ” อสูรข้างแรมตัวสุดท้ายที่เหลือรอดและได้รับพลังอสูรจนถึงขีดสุด แม้ว่านี่จะเป็นเดอะมูฟวี่ของดาบพิฆาตอสูรแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากตอนจบของภาคหนึ่งพอดี

ทำให้นอกจากเราจะได้ทำความรู้จักหนึ่งในเสาหลักผู้ถือว่าอยู่จุดสูงสุดของเหล่านักล่าอสูรอย่างเรนโกคุ ที่เนื้อเรื่องใช้เวลาเพียงไม่นานในการเล่าก็ทำให้คนดูสามารถชื่นชอบและอินไปกับตัวละครนี้ได้ไม่ยาก เข้มข้นไปด้วยฐานะผู้ใช้ปราณแห่งไฟจึงเป็นกุญแจสำหรับค้นหาเส้นทางที่แท้จริงของทันจิโร่เกี่ยวกับระบำเพลิงของพ่อเขา นอกจากนนี้ เรื่องจะหยิบประเด็นเกี่ยวกับความฝันอันแสนสุข ซึ่งสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างน่าสนใจ

               หากพูดถึงอนิเมะที่ถูกหยิบไปสร้าง The movie ส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อเรื่องที่พิเศษเฉพาะตัว แยกออกจากเนื้อเรื่องหลักชัดเจน แต่ดาบพิฆาตอสูรเดอะมูฟวี่มีความพิเศษ เพราะสามารถนำเรื่องราวต่อจากภาคแรกทันที มาถ่ายทอดในแบบฉบับหนังโรงที่ต่อให้คนไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อนก็อินได้ แถมยังสามารถต่อเนื่องไปยังภาคสองได้อีกด้วย ทำให้เนื้อเรื่องมีความสนุก น่าติดตาม รวมทั้งฉากการต่อสู้ที่มาแบบจัดเต็มอลังการสมกับเป็นหนังฉากในโรงภาพยนตร์ รวมทั้งฉากประกอบอื่นๆก็ทำออกมาได้สวยในทุกรายละเอียด ตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงที่ได้ดูถือว่าคุ้มค่ามาก

เครดิตภาพ news.thaiware.com, thairath.co.th, borkormee.com

#อนิเมะไทย #ฉากนี้โคตรดี #ANIMEไทย #Netflix #ดาบพิฆาตอสูร #ศึกรถไฟสู่นิรันดร์